ปัจจุบันนี้ ความท้าทายสำหรับผู้ผลิตพลาสติกไทยประกอบด้วย ภาวะอุปทานส่วนเกินของโลก กระแสรักษ์โลก การลงทุนในพลาสติกชีวภาพ และการส่งออกอย่างมหาศาลของประเทศจีน ดังนั้นการจะรักษาไว้ซึ่งศักยภาพในการแข่งขัน และนำมาซึ่งตลาดใหม่จึงจำเป็นต้องพึ่งพาความเข้าใจเกี่ยวกับเทรนด์ของอุตสาหกรรมพลาสติกโลกอย่างถ่องแท้

• ความต้องการพลาสติกและเทคโนโลยีเฉพาะทางที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก

พลาสติกยังคงเป็นวัสดุพื้นฐานในบรรจุภัณฑ์ ยานยนต์ และการก่อสร้างทั่วโลก ขณะเดียวกันก็ถูกนำมาใช้ทดแทนโลหะในงานอุตสาหกรรมหลายประเภท ด้วยน้ำหนักที่เบาและต้นทุนที่ต่ำกว่า เทคโนโลยีการแปรรูปพลาสติกจึงมีความเฉพาะทางสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การเป่าขึ้นรูป การฉีดขึ้นรูป การอัดรีด การขึ้นรูปด้วยความร้อน และการหมุนขึ้นรูป เป็นต้น

• ความจำเป็นด้านความยั่งยืน

อัตราการรีไซเคิลพลาสติกทั่วโลกยังค่อนข้างต่ำ หรือเพียง 10% ความยั่งยืนจึงกลายเป็นเรื่องเร่งด่วน โดยสถาบัน MIT ได้นำเสนอนวัตกรรมอย่างการรีไซเคิลทางเคมี ไพโรไลซิส และวัสดุเทอร์โมเซ็ตที่ย่อยสลายได้เพื่อผลักดันเศรษฐกิจหมุนเวียนมากขึ้น ส่วนพลาสติกชีวภาพที่ผลิตจากข้าวโพด ถั่วเหลือง และอ้อย ก็กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในเชิงพาณิชย์เช่นกัน

• การเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์

จีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าสารเคมีรายใหญ่กำลังขยายขีดความสามารถทางการผลิตภายในประเทศด้วยการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาครั้งใหญ่ รวมถึงความร่วมมือกับบริษัทข้ามชาติ ซึ่งประเทศอินเดียกำลังเดินตามแนวทางเดียวกัน ขณะที่บริษัทต่างๆ ในตะวันออกกลางกำลังใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบในท้องถิ่นและขยายกำลังการผลิตด้วยโครงการขนาดใหญ่เพื่อแข่งขันในตลาดสากล 

• นวัตกรรมทางเทคโนโลยี

นาโนเทคโนโลยีกำลังปลดล็อกศักยภาพใหม่ๆ ในด้านสารเคลือบและวัสดุพลาสติก โดย LED โพลิเมอร์ (PLED) ถือเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าครั้งสำคัญ เพราะเป็นจอแสดงผลที่มีน้ำหนักเบา บาง และประหยัดพลังงาน สามารถนำไปติดตั้งในบรรจุภัณฑ์แบบโค้งหรือแบบยืดหยุ่นได้ เปิดโอกาสให้กับระบบฉลากอัจฉริยะและการโฆษณาแบบอินเทอร์แอคทีฟมากขึ้น

• การเติบโตของเทอร์โมพลาสติกประสิทธิภาพสูงและนาโนคอมโพสิต

หลายอุตสาหกรรมเริ่มหันมาใช้เทอร์โมพลาสติกประสิทธิภาพสูง (High-Performance Thermoplastics - HPTP) แทนที่โลหะหนัก ตั้งแต่อากาศยานไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ด้วยคุณสมบัติที่ได้เปรียบเช่นความทนทานต่อการกัดกร่อน การทนความร้อน และความแข็งแกร่งของโครงสร้าง วัสดุคอมโพสิตที่เสริมด้วยคาร์บอน ไฟเบอร์กลาส หรืออนุภาคนาโน ก็กำลังได้รับความนิยมสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงพร้อมน้ำหนักที่ลดลง

• ข้อกำหนดที่เข้มงวดขึ้นด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย

ความตระหนักรู้ของผู้บริโภคเกี่ยวกับสารพิษเช่น BPA และ PFAS ได้กระตุ้นให้เกิดข้อบังคับใหม่ๆ ขึ้น เช่น REACH ของยุโรปที่กำหนดให้มีการทดสอบสารเคมีอย่างละเอียด และหลายรัฐในสหรัฐอเมริกาได้สั่งห้ามจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มี PFAS บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft และ Walmart ได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อยุติการใช้สารเคมีและวัสดุบรรจุภัณฑ์บางชนิด เพื่อรับมือกับแรงกดดันจากผู้บริโภคและหน่วยงานที่กำกับดูแล

• นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ในฐานะตัวขับเคลื่อนความยั่งยืน

บริษัทยักษ์ใหญ่เช่น Amazon และ Walmart ได้ปรับปรุงกระบวนการโลจิสติกส์และบรรจุภัณฑ์ใหม่เพื่อลดน้ำหนัก วัสดุ และต้นทุนการขนส่ง ขณะเดียวกัน หลายบริษัทก็กำลังสำรวจทางเลือกอื่น เช่น กระดาษเคลือบ และบรรจุภัณฑ์ที่ปรับปรุงด้วยเทคโนโลยีนาโน เพื่อให้สามารถรีไซเคิลและยืดอายุการใช้งานวัสดุได้นานขึ้น

• ความหลากหลายของเชื้อเพลิงชีวภาพและวัตถุดิบเคมี

เชื้อเพลิงเอทานอลในปัจจุบันยังคงเป็นที่ถกเถียงเรื่องผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน ถึงแม้ไบโอพลาสติกจะเป็นทางเลือกทดแทนวัสดุจากปิโตรเลียมได้บางส่วน แต่ต้นทุนยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ อย่างไรก็ตาม เมื่อการลงทุนและนวัตกรรมเติบโตขึ้น ไบโอพลาสติกอาจช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ในที่สุด

• ความเป็นไปได้ในอนาคต

อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ สารเคลือบ และพลาสติกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคสำคัญที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ความสำเร็จในภาคส่วนนี้ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นการนำวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้มากขึ้น การลงทุนในนาโนวัสดุรุ่นใหม่ หรือการทบทวนหลักการของบรรจุภัณฑ์ใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถแข่งขันในตลาดสากลได้อย่างยั่งยืน

แหล่งที่มา:

https://www.plunkettresearch.com/9-major-trends-shaping-the-chemicals-coatings-plastics-industry-insights-for-investors-consultants-and-marketing-professionals-in-2025-and-2026/